หมายเหตุสำคัญ!
เราใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา
ด้วยการคลิกที่ ‘ตกลง’ คุณได้ยอมรับการใช้คุกกี้ของเราตามที่อธิบายไว้ใน นโยบายคุกกี้
ตลาดการเงินโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นจากหลายปัจจัยบวก โดยเงินเฟ้อสหรัฐฯ ชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 ขณะที่ธนาคารกลางสำคัญทั่วโลกยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม โดย Fed ธนาคารกลางสหรัฐฯ คงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25%-4.5% แม้จะแสดงความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจ ด้านความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีการผ่อนคลายหลังทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงพักการใช้มาตรการภาษีเป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ทำสถิติสูงสุดใหม่ โดย S&P 500 ทะลุแนวต้านที่ 5900 และเริ่มทดสอบระดับ 6100 ในขณะที่ตลาดคริปโตเคอเรนซี่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดย Bitcoin เพิ่มขึ้นถึง 40% ในเดือนที่ผ่านมา
สัปดาห์ที่จะถึงนี้ (19-24 พฤษภาคม 2025) นักลงทุนควรให้ความสำคัญกับการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ในวันอังคารที่ 20 พฤษภาคม ซึ่งคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 3.85% จากปัจจุบันที่ 4.10% ต่อเนื่องด้วยรายงานเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรในวันพุธที่ 21 พฤษภาคม ที่คาดการณ์ว่าจะสูงถึง 3.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของภาวะเศรษฐกิจในแต่ละภูมิภาค ส่วนในวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม จะมีการประกาศดัชนี PMI เฟสแรก (Flash PMI) ของหลายประเทศ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญของภาวะเศรษฐกิจในภาคการผลิตและบริการ โดยจะเริ่มจากญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ยุโรป และสหรัฐฯ ตามลำดับ
นอกจากนี้ ยังมีการประชุม G7 ในวันอังคารถึงวันพฤหัสบดี และการแถลงการณ์ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) หลายท่านตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งอาจให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯ ทั้งยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) และบ้านใหม่ (New Home Sales) จะถูกเปิดเผยในช่วงปลายสัปดาห์ ซึ่งจะสะท้อนถึงสุขภาพของภาคอสังหาริมทรัพย์และการใช้จ่ายของผู้บริโภค
ปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนควรติดตามอย่างใกล้ชิดในสัปดาห์นี้ ได้แก่:
สัปดาห์นี้เต็มไปด้วยเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญที่อาจเพิ่มความผันผวนให้กับตลาด นักลงทุนควรเตรียมแผนจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ โดยอาจพิจารณาลดขนาดการเทรดลง 30-50% จากปกติ ในช่วงที่มีการประกาศข้อมูลสำคัญ รวมถึงปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับทิศทางตลาดที่อาจเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
04:20 น. – สหรัฐฯ (USD) – FOMC Member Williams กล่าวสุนทรพจน์ (ผลกระทบปานกลาง) เกี่ยวกับมุมมองทางเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน
09:00 น. – จีน (CNY) – การเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) ประจำเดือนเมษายน (ผลกระทบสูง) คาดการณ์ที่ 5.7% YoY เทียบกับ 7.7% ในครั้งก่อน
09:00 น. – จีน (CNY) – ยอดค้าปลีก (Retail Sales) ประจำเดือนเมษายน (ผลกระทบสูง) คาดการณ์ที่ 6.0% YoY เทียบกับ 5.9% ในครั้งก่อน
19:30 น. – สหรัฐฯ (USD) – FOMC Member Bostic กล่าวสุนทรพจน์ (ผลกระทบปานกลาง) เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน
23:30 น. – สวิตเซอร์แลนด์ (CHF) – SNB Chairman Schlegel กล่าวสุนทรพจน์ (ผลกระทบสูง) เกี่ยวกับนโยบายการเงินและเศรษฐกิจสวิส
08:00 น. – จีน (CNY) – อัตราดอกเบี้ยเงินกู้หลัก 1 ปี (1-y Loan Prime Rate) (ผลกระทบสูง) คาดการณ์ที่ 3.00% เทียบกับ 3.10% ในครั้งก่อน
08:00 น. – จีน (CNY) – อัตราดอกเบี้ยเงินกู้หลัก 5 ปี (5-y Loan Prime Rate) (ผลกระทบสูง) คาดการณ์ที่ 3.50% เทียบกับ 3.60% ในครั้งก่อน
11:30 น. – ออสเตรเลีย (AUD) – การประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Cash Rate) โดยธนาคารกลางออสเตรเลีย (ผลกระทบสูงมาก) คาดการณ์ที่ 3.85% ลดลงจาก 4.10% ในครั้งก่อน
11:30 น. – ออสเตรเลีย (AUD) – แถลงการณ์นโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA Monetary Policy Statement) (ผลกระทบสูงมาก)
12:30 น. – ออสเตรเลีย (AUD) – การแถลงข่าวของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA Press Conference) (ผลกระทบสูง)
19:30 น. – แคนาดา (CAD) – ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนเมษายน (ผลกระทบสูงมาก) คาดการณ์ที่ 0.5% MoM เทียบกับ 0.3% ในครั้งก่อน และ 2.9% YoY เท่ากับครั้งก่อน
เวลาไม่ระบุชัดเจน – ทั่วโลก – การประชุม G7 วันแรก (ผลกระทบปานกลาง) การประชุมระหว่างประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลก
05:45 น. – นิวซีแลนด์ (NZD) – ดุลการค้า (Trade Balance) (ผลกระทบปานกลาง) คาดการณ์ที่ 500 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ เทียบกับ 970 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ในครั้งก่อน
13:00 น. – สหราชอาณาจักร (GBP) – ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนเมษายน (ผลกระทบสูงมาก) คาดการณ์ที่ 3.3% YoY สูงกว่า 2.6% ในครั้งก่อน
13:00 น. – สหราชอาณาจักร (GBP) – ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ประจำเดือนเมษายน (ผลกระทบปานกลาง) คาดการณ์ที่ 3.6% YoY สูงกว่า 3.4% ในครั้งก่อน
15:00 น. – สหภาพยุโรป (EUR) – รายงานเสถียรภาพทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB Financial Stability Review) (ผลกระทบสูง)
เวลาไม่ระบุชัดเจน – ทั่วโลก – การประชุม G7 วันที่สอง (ผลกระทบปานกลาง)
06:00 น. – ออสเตรเลีย (AUD) – ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตเบื้องต้น (Flash Manufacturing PMI) (ผลกระทบปานกลาง) ค่าครั้งก่อนอยู่ที่ 51.7
06:00 น. – ออสเตรเลีย (AUD) – ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการเบื้องต้น (Flash Services PMI) (ผลกระทบปานกลาง) ค่าครั้งก่อนอยู่ที่ 51.0
07:30 น. – ญี่ปุ่น (JPY) – ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตเบื้องต้น (Flash Manufacturing PMI) (ผลกระทบปานกลาง) ค่าครั้งก่อนอยู่ที่ 48.7
14:30 น. – เยอรมนี (EUR) – ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตเบื้องต้น (Flash Manufacturing PMI) (ผลกระทบสูงมาก) คาดการณ์ที่ 48.8 เพิ่มขึ้นจาก 48.4 ในครั้งก่อน
14:30 น. – เยอรมนี (EUR) – ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการเบื้องต้น (Flash Services PMI) (ผลกระทบสูงมาก) คาดการณ์ที่ 49.6 เพิ่มขึ้นจาก 49.0 ในครั้งก่อน
15:00 น. – สหภาพยุโรป (EUR) – ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตเบื้องต้น (Flash Manufacturing PMI) (ผลกระทบสูง) คาดการณ์ที่ 49.3 เพิ่มขึ้นจาก 49.0 ในครั้งก่อน
15:00 น. – สหภาพยุโรป (EUR) – ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการเบื้องต้น (Flash Services PMI) (ผลกระทบสูง) คาดการณ์ที่ 50.6 เพิ่มขึ้นจาก 50.1 ในครั้งก่อน
15:30 น. – สหราชอาณาจักร (GBP) – ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตเบื้องต้น (Flash Manufacturing PMI) (ผลกระทบสูงมาก) คาดการณ์ที่ 46.2 เพิ่มขึ้นจาก 45.4 ในครั้งก่อน
15:30 น. – สหราชอาณาจักร (GBP) – ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการเบื้องต้น (Flash Services PMI) (ผลกระทบสูงมาก) คาดการณ์ที่ 50.0 เพิ่มขึ้นจาก 49.0 ในครั้งก่อน
19:30 น. – สหรัฐฯ (USD) – จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (Unemployment Claims) (ผลกระทบสูงมาก) คาดการณ์ที่ 227,000 ราย ลดลงจาก 229,000 รายในสัปดาห์ก่อน
20:45 น. – สหรัฐฯ (USD) – ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตเบื้องต้น (Flash Manufacturing PMI) (ผลกระทบสูงมาก) คาดการณ์ที่ 49.9 ลดลงจาก 50.2 ในครั้งก่อน
20:45 น. – สหรัฐฯ (USD) – ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการเบื้องต้น (Flash Services PMI) (ผลกระทบสูงมาก) คาดการณ์ที่ 50.7 ลดลงจาก 50.8 ในครั้งก่อน
21:00 น. – สหรัฐฯ (USD) – ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ประจำเดือนเมษายน (ผลกระทบสูง) คาดการณ์ที่ 4.15 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้นจาก 4.02 ล้านหน่วยในเดือนมีนาคม
เวลาไม่ระบุชัดเจน – ทั่วโลก – การประชุม G7 วันที่สาม (ผลกระทบปานกลาง)
05:45 น. – นิวซีแลนด์ (NZD) – ยอดค้าปลีก (Retail Sales) ไตรมาส 1/2025 (ผลกระทบสูง) คาดการณ์ที่ 0.0% QoQ เทียบกับ 0.9% ในไตรมาสก่อน
06:30 น. – ญี่ปุ่น (JPY) – ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (National Core CPI) ประจำเดือนเมษายน (ผลกระทบปานกลาง) คาดการณ์ที่ 3.5% YoY เพิ่มขึ้นจาก 3.2% ในเดือนมีนาคม
13:00 น. – สหราชอาณาจักร (GBP) – ยอดค้าปลีก (Retail Sales) ประจำเดือนเมษายน (ผลกระทบสูงมาก) คาดการณ์ที่ 0.4% MoM เท่ากับเดือนมีนาคม
19:30 น. – แคนาดา (CAD) – ยอดค้าปลีก (Retail Sales) ประจำเดือนมีนาคม (ผลกระทบสูงมาก) คาดการณ์ที่ -0.3% MoM ลดลงจาก -0.4% ในเดือนกุมภาพันธ์
19:30 น. – แคนาดา (CAD) – ยอดค้าปลีกหลัก (Core Retail Sales) ประจำเดือนมีนาคม (ผลกระทบสูงมาก) คาดการณ์ที่ 0.2% MoM ลดลงจาก 0.5% ในเดือนกุมภาพันธ์
21:00 น. – สหรัฐฯ (USD) – ยอดขายบ้านใหม่ (New Home Sales) ประจำเดือนเมษายน (ผลกระทบสูง) คาดการณ์ที่ 696,000 หน่วย ลดลงจาก 724,000 หน่วยในเดือนมีนาคม
เวลาไม่ระบุชัดเจน – สหรัฐฯ (USD) – รายงานเสถียรภาพทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC Financial Stability Report) (ผลกระทบปานกลาง) การประเมินความเสี่ยงในระบบการเงินโดย Fed
การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลียในวันอังคารที่ 20 พฤษภาคมนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของนโยบายการเงินโลก โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า RBA จะประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 3.85% จากปัจจุบันที่ 4.10% หลังจากที่คงอัตราดอกเบี้ยไว้นานกว่า 8 เดือน การตัดสินใจครั้งนี้มีปัจจัยสนับสนุนจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของออสเตรเลียที่ลดลงมาอยู่ที่ 2.9% ในไตรมาสแรกของปี 2025 ซึ่งอยู่ในกรอบเป้าหมาย 2-3% ของ RBA นอกจากนี้ ตลาดแรงงานออสเตรเลียเริ่มแสดงสัญญาณการชะลอตัว โดยอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 3.8% และการจ้างงานลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง
ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งในออสเตรเลียได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ล่วงหน้าก่อนการประกาศของ RBA โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นว่าวัฏจักรการลดดอกเบี้ยกำลังจะเริ่มต้น นักวิเคราะห์จาก Reuters คาดการณ์ว่า RBA จะลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ รวมเป็นการลดทั้งหมด 75 จุดพื้นฐาน โดยจะทยอยลดในไตรมาสที่ 3 และ 4
ผลกระทบต่อตลาด:
นักลงทุนควรให้ความสำคัญกับถ้อยแถลงของผู้ว่าการ Michele Bullock ในการแถลงข่าวหลังการประกาศอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายภาษีศุลกากรสหรัฐฯ-จีนต่อการส่งออกของออสเตรเลีย และแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของ AUD ในระยะกลาง
การเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหราชอาณาจักรประจำเดือนเมษายนในวันพุธที่ 21 พฤษภาคม เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่นักลงทุนทั่วโลกจับตามอง โดยตลาดคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 3.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สูงกว่าตัวเลขเดือนมีนาคมที่ 2.6% อย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) คาดว่าจะอยู่ที่ 3.6% สูงกว่า 3.4% ในเดือนก่อน
การเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในสหราชอาณาจักรมีสาเหตุสำคัญจากการปรับขึ้นราคาพลังงานและการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมการให้บริการ รวมถึงราคาอาหารที่ยังคงอยู่ในระดับสูง แม้ว่าธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25% เป็นเวลากว่า 6 เดือน ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้นนี้อาจทำให้ BoE ต้องชะลอแผนการลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 ออกไป ซึ่งแตกต่างจากแนวโน้มของธนาคารกลางอื่นๆ ทั่วโลก
นอกจากดัชนีราคาผู้บริโภคแล้ว ในวันเดียวกันยังมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ค้าปลีก (RPI) ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 4.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สูงกว่า 3.2% ในเดือนมีนาคม ตัวเลขนี้มีความสำคัญเนื่องจากถูกใช้ในการปรับอัตราค่าจ้างและสัญญาเช่าในสหราชอาณาจักร
ผลกระทบต่อตลาด:
ข้อมูลเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรมีความสำคัญต่อการคาดการณ์ทิศทางนโยบายการเงินของ BoE ในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 19 มิถุนายน 2025 นักลงทุนควรติดตามถ้อยแถลงของสมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อ เพื่อประเมินโอกาสของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลัง
วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคมจะมีการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเบื้องต้น (Flash PMI) ของหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นตัวชี้วัดล่วงหน้าที่สำคัญของภาวะเศรษฐกิจในภาคการผลิตและบริการ โดยจะเริ่มจากญี่ปุ่นและออสเตรเลียในช่วงเช้า ตามด้วยยุโรปและสหรัฐฯ ในช่วงบ่ายและค่ำ
สำหรับดัชนี PMI ภาคการผลิตของญี่ปุ่น นักวิเคราะห์จับตาว่าจะยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 หรือไม่ หลังจากอยู่ที่ 48.7 ในเดือนเมษายน สะท้อนถึงการหดตัวของภาคการผลิตญี่ปุ่นท่ามกลางค่าเงินเยนที่อ่อนค่าและความกังวลเกี่ยวกับการส่งออก
ในยุโรป ดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมนีคาดว่าจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 48.8 จาก 48.4 ในเดือนเมษายน แต่ยังคงต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการหดตัว สะท้อนถึงความท้าทายที่เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยุโรปกำลังเผชิญ ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการของสหภาพยุโรปคาดว่าจะอยู่ที่ 50.6 เพิ่มขึ้นจาก 50.1 ในเดือนก่อน แสดงถึงการขยายตัวที่เร่งขึ้นเล็กน้อย
สำหรับสหรัฐฯ ดัชนี PMI ภาคการผลิตคาดว่าจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 49.9 จาก 50.2 ในเดือนเมษายน ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการคาดว่าจะอยู่ที่ 50.7 ลดลงเล็กน้อยจาก 50.8 สะท้อนถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง
ผลกระทบต่อตลาด:
ข้อมูล Flash PMI มีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงนี้ เนื่องจากจะเป็นตัวชี้วัดล่วงหน้าถึงผลกระทบของนโยบายภาษีศุลกากรและความตึงเครียดทางการค้าที่มีต่อภาคการผลิตและบริการทั่วโลก นักลงทุนควรพิจารณาไม่เพียงแค่ตัวเลข PMI โดยรวม แต่ยังรวมถึงองค์ประกอบย่อย เช่น คำสั่งซื้อใหม่ การจ้างงาน และราคา เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกลาง
ในช่วงปลายสัปดาห์ ตลาดจะได้รับข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจโดยรวม โดยวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคมจะมีการเปิดเผยยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ประจำเดือนเมษายน ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.2% รายเดือน มาอยู่ที่ 4.15 ล้านหน่วย ตามด้วยยอดขายบ้านใหม่ (New Home Sales) ในวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม ซึ่งคาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 696,000 หน่วย จาก 724,000 หน่วยในเดือนมีนาคม
ตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองเฉลี่ย 30 ปีลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 6.8% จากระดับสูงสุดที่เกือบ 8% ในปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ราคาบ้านยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้ความสามารถในการซื้อบ้านของชาวอเมริกันยังคงถูกจำกัด โดยเฉพาะผู้ซื้อบ้านครั้งแรก
นอกจากนี้ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคมแสดงการลดลง 5.6% ในเดือนเมษายน สะท้อนถึงความระมัดระวังของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ท่ามกลางต้นทุนการก่อสร้างที่สูงและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอุปสงค์ในอนาคต
ผลกระทบต่อตลาด:
ภาคอสังหาริมทรัพย์มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่เพียงแค่ในด้านการจ้างงานและการบริโภค แต่ยังรวมถึงการลงทุนในครัวเรือน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของ GDP ข้อมูลที่ดีขึ้นอาจเป็นสัญญาณบวกสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2/2025 ขณะที่ข้อมูลที่อ่อนแอกว่าคาดอาจเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
การเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในวันจันทร์มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากจะสะท้อนถึงผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ โดยยอดค้าปลีกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 6.0% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เร่งตัวขึ้นจาก 5.9% ในเดือนมีนาคม ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.7% ชะลอตัวลงจาก 7.7% ในเดือนก่อน แม้ตัวเลขจะชะลอลง แต่ยังถือว่าแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจหลักอื่นๆ ทั่วโลก
การประชุม G7 ซึ่งประกอบด้วยผู้นำจากสหรัฐฯ ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี สหราชอาณาจักร และแคนาดา จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 พฤษภาคม โดยมีประเด็นหลักเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าระหว่างประเทศ และความมั่นคง การประชุมครั้งนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษเนื่องจากจะเป็นเวทีที่อาจมีการหารือเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรและนโยบายการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก
ตลอดทั้งสัปดาห์จะมีการแถลงการณ์ของเจ้าหน้าที่ Fed หลายท่าน รวมถึง Williams, Bostic, Jefferson, Logan, Daly, Hammack และ Musalem ซึ่งอาจให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมุมมองของ Fed ต่อภาวะเศรษฐกิจและทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงและการชะลอตัวของตลาดแรงงาน ตลาดจะจับตาว่า Fed จะยังคงส่งสัญญาณการลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่ และจะเริ่มต้นเมื่อใด
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเผยแพร่รายงานเสถียรภาพทางการเงินในวันพุธที่ 21 พฤษภาคม ซึ่งจะประเมินความเสี่ยงในระบบการเงินของยูโรโซน รวมถึงผลกระทบของนโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อสถาบันการเงินและเสถียรภาพของตลาดการเงิน รายงานนี้อาจให้ข้อมูลเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของ ECB ในการประชุมวันที่ 5 มิถุนายน 2025 โดยเฉพาะโอกาสของการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่สอง หลังจากที่ได้ลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา
ปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีความเชื่อมโยงกันและส่งผลต่อทิศทางของตลาดการเงินโลก นักลงทุนควรพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อวางแผนกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน
สัปดาห์ที่จะถึงนี้ (19-24 พฤษภาคม 2025) มีเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญที่จะส่งผลต่อทิศทางตลาดการเงินโลกหลายรายการ โดยเฉพาะการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ข้อมูลเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักร และดัชนี PMI ทั่วโลก ซึ่งอาจนำมาซึ่งความผันผวนในตลาดหลักดังนี้
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน (Forex): คาดว่า AUD จะอ่อนค่าลงหลังการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยของ RBA โดยเฉพาะหากแถลงการณ์มีท่าทีผ่อนคลายมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ในขณะที่ GBP มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นหากข้อมูลเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าคาด ซึ่งจะลดโอกาสที่ธนาคารกลางอังกฤษจะลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ สำหรับคู่เงิน EUR/USD จะขึ้นอยู่กับความแตกต่างของดัชนี PMI ระหว่างยุโรปและสหรัฐฯ ซึ่งอาจสะท้อนถึงความแตกต่างของภาวะเศรษฐกิจในสองภูมิภาค
ตลาดหุ้น: ดัชนีหุ้นทั่วโลกยังคงมีแนวโน้มเชิงบวกในระยะสั้น โดยเฉพาะ S&P 500 ที่เพิ่งทะลุแนวต้านที่ 5900 และมีแนวโน้มที่จะไปทดสอบระดับ 6100 อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปอาจได้รับแรงกดดันหากดัชนี PMI ภาคการผลิตยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 48.0 ซึ่งบ่งชี้ถึงการหดตัวอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับตลาดหุ้นออสเตรเลีย (ASX 200) คาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากการลดอัตราดอกเบี้ยของ RBA โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และธนาคาร
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์: ทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นหลังจากฟื้นตัวจากโซนแนวรับที่สำคัญ โดยมีเป้าหมายที่ระดับ $3,300 ในระยะกลาง แนวโน้มการอ่อนค่าของดอลลาร์ในระยะยาวยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ สำหรับน้ำมันดิบ การผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดสองรายของโลก จะยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาในระยะสั้น
ตลาดคริปโตเคอเรนซี่: Bitcoin ยังคงแสดงความแข็งแกร่งหลังเพิ่มขึ้น 40% ในเดือนที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายระยะกลางที่ $90,000-$95,000 สภาพแวดล้อมการเงินที่ผ่อนคลายทั่วโลกและแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายแห่งจะยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุน Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ
ในระยะสั้น ตลาดการเงินมีแนวโน้มเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยหนุนหลักมาจากเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง การผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้า และการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะเริ่มวัฏจักรการลดอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ตลาดอาจเผชิญกับความผันผวนที่เพิ่มขึ้นในช่วงการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ โดยเฉพาะดัชนี PMI และข้อมูลที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้สำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจโดยรวม
ตลาดหุ้นน่าจะยังคงมีแนวโน้มเชิงบวก โดยเฉพาะดัชนี S&P 500 ที่คาดว่าจะทดสอบระดับ 6100 ในไม่ช้า ขณะที่ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนจะมีการเคลื่อนไหวแตกต่างกันไปตามปัจจัยเฉพาะของแต่ละสกุลเงิน โดย AUD น่าจะอ่อนค่าลงหลังการประชุม RBA ในขณะที่ GBP มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นหากเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าคาด ทองคำและ Bitcoin น่าจะยังคงแนวโน้มขาขึ้นต่อไป
ในระยะกลาง ตลาดยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากความคาดหวังเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสำคัญ แม้ว่าจังหวะเวลาจะแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค ธนาคารกลางออสเตรเลียและยุโรปน่าจะนำหน้าในการลดอัตราดอกเบี้ย ตามด้วย Fed ในช่วงครึ่งหลังของปี ในขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษอาจชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยออกไปหากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
ความเสี่ยงหลักในระยะกลางคือการกลับมาของความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาพักใช้มาตรการภาษี 90 วัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ ยังต้องติดตามผลกระทบของการชะลอตัวของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้ Fed เร่งการลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์
สำหรับสินทรัพย์หลัก ทองคำมีเป้าหมายที่ระดับ $3,300 ในระยะกลาง ขณะที่ Bitcoin มีเป้าหมายที่ $90,000-$95,000 หากยังคงรักษาแนวรับที่ $80,000 ได้ ดัชนี S&P 500 มีโอกาสทะลุระดับ 6100 และมุ่งหน้าสู่ 6300 หากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังคงแข็งแกร่งและเงินเฟ้อยังคงชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง
โดยสรุป สัปดาห์ที่จะถึงนี้นับเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับตลาดการเงินโลก โดยมีเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญหลายรายการที่อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของตลาด นักลงทุนควรเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนที่อาจเพิ่มขึ้น โดยมีการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสมและปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป