หมายเหตุสำคัญ!
เราใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา
ด้วยการคลิกที่ ‘ตกลง’ คุณได้ยอมรับการใช้คุกกี้ของเราตามที่อธิบายไว้ใน นโยบายคุกกี้
ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2025 กำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนที่สำคัญ ด้วยมูลค่าตลาดรวมที่ 3.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้จะลดลง 1.64% ในช่วง 24 ชั่วโมง แต่การเติบโต 33.58% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วยังคงสะท้อนถึงความแข็งแกร่งในระยะยาว สิ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดในขณะนี้ไม่ใช่ตัวเลขราคา แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างตลาดที่กำลังเกิดขึ้น
การ “Great Decoupling” ของ Bitcoin กำลังเป็นจริง หลังจากที่ความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin และ S&P 500 ที่เคยสูงถึง 0.88 ในต้นปี 2025 ได้ลดลงมาอยู่ที่ศูนย์ ณ วันที่ 13 มิถุนายน การแยกตัวนี้ไม่ใช่เพียงการปรับตัวชั่วคราว แต่เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานที่ Bitcoin กำลังก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ในฐานะ “Digital Gold” อย่างแท้จริง โดยมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับทองคำที่ระดับ 0.70 ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในรอบหลายปี
ขณะที่ Bitcoin dominance ยังคงสูงที่ 61.69% บ่งชี้ว่าเงินทุนยังไหลเข้า Bitcoin เป็นหลัก ตลาด altcoin ยังไม่เข้าสู่ช่วง “Altcoin Season” โดยดัชนีอยู่ที่เพียง 26-28 จาก 75 ที่จำเป็น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กำลังสร้างฟองเฟะในหมู่นักวิเคราะห์คือการไหลเข้าของเงินทุนสถาบันอย่างต่อเนื่อง โดย Bitcoin ETFs เติบโต 333% ใน 18 เดือนที่ผ่านมา จาก 30 พันล้านเป็น 130 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ Ethereum ETFs บันทึกการไหลเข้า 18 วันติดต่อกัน
สิ่งที่ทำให้สัปดาห์นี้แตกต่างคือการรวมตัวของปัจจัยสำคัญหลายประการ การประชุมของธนาคารกลางสำคัญ 3 แห่ง ได้แก่ Federal Reserve (17-18 มิถุนายน), Bank of Japan (16-17 มิถุนายน) และ Bank of England (19 มิถุนายน) จะส่งผลต่อทิศทางของ DXY ซึ่งมีความสัมพันธ์ผกผันกับ Bitcoin อย่างชัดเจน ปัจจุบัน DXY ลดลง 9.4% ในปีนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญต่อสินทรัพย์ทางเลือก
ในขณะที่ Crypto Fear & Greed Index อยู่ที่ระดับ 69 (Greed) แสดงถึงความเชื่อมั่นที่ดี แต่การลดลงของ Advanced Sentiment จาก 80% เป็น 46.1% บ่งชี้ว่านักเทรดเริ่มระมัดระวังมากขึ้น การวิเคราะห์ในบทความนี้จะเจาะลึกถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเหล่านี้และสิ่งที่หมายถึงสำหรับเทรดเดอร์ในทุกระดับ
หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดของปี 2025 คือการที่ Bitcoin เริ่มแยกตัวออกจากตลาดหุ้นแบบดั้งเดิมอย่างชัดเจน ความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin และ S&P 500 ที่เคยแข็งแกร่งถึง 0.88 ในช่วงต้นปีได้ลดลงมาสู่ระดับศูนย์ ณ วันที่ 13 มิถุนายน ในทำนองเดียวกัน ความสัมพันธ์ 30 วันระหว่าง Bitcoin และ NASDAQ 100 ที่เคยสูงถึง 70% ในเดือนมีนาคมก็ได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง
การแยกตัวนี้ไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงในการรับรู้ของนักลงทุนที่เริ่มมองว่า Bitcoin เป็น “store of value” มากกว่า “risk asset” สิ่งที่ยืนยันการเปลี่ยนแปลงนี้คือความสัมพันธ์เชิงบวกที่เพิ่มขึ้นระหว่าง Bitcoin และทองคำ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 0.70 – ระดับที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบหลายปี
สิ่งที่น่าสนใจยิ่งขึ้นคือการค้นพบความสัมพันธ์ใหม่ระหว่าง Bitcoin และพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น 30 ปี (JGB) ซึ่งแข็งแกร่งกว่าความสัมพันธ์กับ NASDAQ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนเพิ่มขึ้นของตลาดคริปโตและการเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลกในมิติใหม่
ความหมายสำหรับเทรดเดอร์: การแยกตัวนี้หมายความว่า Bitcoin อาจไม่ตอบสนองต่อข่าวหุ้นเหมือนเดิม แต่จะไวต่อปัจจัยที่มีผลต่อทองคำ เช่น ความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์การเมือง, ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และความอ่อนแอของสกุลเงินหลัก
เงินทุนสถาบันยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของตลาดคริปโต โดย Bitcoin ETFs แสดงการเติบโตที่น่าทึ่ง จากสินทรัพย์สุทธิ 30 พันล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้นเป็น 130 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา คิดเป็นการเติบโต 333% ที่แสดงถึงความต้องการที่แข็งแกร่งจากนักลงทุนสถาบัน
ขณะที่ Bitcoin ETFs ครองความสนใจ Ethereum ETFs กลับกลายเป็นดาวเด่นในช่วงล่าสุด ด้วยการบันทึกการไหลเข้าสุทธิ 18 วันติดต่อกัน ในวันที่ 11 มิถุนายนเพียงวันเดียว ETH ETFs มีการไหลเข้าสุทธิ 240 ล้านดอลลาร์ เอาชนะ Bitcoin ETFs ที่ 165 ล้านดอลลาร์ โดย BlackRock’s ETHA นำหน้าด้วย 163 ล้านดอลลาร์ ตามด้วย Fidelity’s FETH ที่ 54 ล้านดอลลาร์
การวิเคราะห์เชิงลึกแสดงให้เห็นว่าการไหลเข้าของ ETFs ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นตัวบ่งชี้ความเชื่อมั่นระยะยาวของสถาบัน การที่ Ethereum ETFs สามารถรักษาการไหลเข้าได้ต่อเนื่อง 18 วันแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในการรับรู้ที่ว่า Ethereum ไม่ใช่แค่ “altcoin” แต่เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีคุณค่าในตัวเอง
การคาดการณ์จากข้อมูล ETF Flows: หากการไหลเข้าของ Ethereum ETFs ยังคงต่อเนื่อง อาจเป็นสัญญาณของการเริ่มต้น “Ethereum Season” ที่จะนำไปสู่การหมุนเวียนเงินทุนจาก Bitcoin ไปยัง Ethereum และ altcoins อื่นๆ ในที่สุด
สัปดาห์นี้ถือเป็นหนึ่งในสัปดาห์ที่สำคัญที่สุดของเดือนด้วยการประชุมของธนาคารกลางสำคัญ 3 แห่งที่จะส่งผลกระทบต่อทิศทางของตลาดการเงินโลก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อคริปโตเคอร์เรนซี
Federal Reserve (17-18 มิถุนายน) เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Fed จะคงอัตราดอกเบียนไว้ที่ 4.25%-4.50% แต่สิ่งที่นักลงทุนจับตามองคือ Summary of Economic Projections (SEP) หรือ “dot plot” ที่จะแสดงการคาดการณ์อัตราดอกเบียนในอนาคต การแถลงข่าวของประธาน Jerome Powell จะให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายภาษีศุลกากรใหม่
สิ่งที่น่าจับตาตามองคือความสัมพันธ์ผกผันระหว่าง DXY และ Bitcoin ปัจจุบัน DXY อยู่ที่ระดับ 98.29 ลดลง 9.4% ในปีนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญต่อ Bitcoin ที่มีสหสัมพันธ์ -0.4 ถึง -0.8 หากการประชุม Fed ส่งสัญญาณ dovish มากกว่าคาด DXY อาจอ่อนค่าต่อไป ซึ่งจะเป็นแรงหนุนให้ Bitcoin
Bank of Japan (16-17 มิถุนายน) น่าจะคงอัตราดอกเบียนไว้ที่ 0.5% แต่การค้นพบความสัมพันธ์ใหม่ระหว่าง Bitcoin และ JGB yields ทำให้การประชุมครั้งนี้มีความสำคัญเพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงใดๆ ในนโยบายการเงินของญี่ปุ่นอาจส่งผลต่อ Bitcoin มากกว่าที่คาดการณ์
Bank of England (19 มิถุนายน) คาดการณ์ว่าจะคงอัตราดอกเบียนไว้ที่ 4.25% แต่การตัดสินใจนี้จะมีผลต่อ GBP/USD ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตะกร้า DXY
กลยุทธ์สำหรับสัปดาห์นี้:
สำหรับเทรดเดอร์ระยะสั้น: ติดตามการประกาศของ Fed อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ dot plot และการแถลงข่าวของ Powell ความผันผวนจะเพิ่มขึ้นรอบเวลา 14:00-15:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ วันที่ 18 มิถุนายน
สำหรับเทรดเดอร์ระยะกลาง: พิจารณาการเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ระหว่างตลาด หาก DXY อ่อนค่าต่อเนื่อง และ Bitcoin ยังคงแยกตัวจากหุ้น อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการขึ้นใหม่ที่แข็งแกร่ง
สำหรับนักลงทุนระยะยาว: การไหลเข้าของ ETFs ที่ต่อเนื่องและการแยกตัวจากตลาดหุ้นเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับการถือครองระยะยาว โดยเฉพาะหาก Bitcoin สามารถรักษาบทบาท “digital gold” ได้สำเร็จ
Bitcoin (BTCUSD) อยู่ในจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ด้วยราคาปัจจุบันที่ $105,140 Bitcoin กำลังทดสอบความสามารถในการรักษาตัวเป็น “digital gold” ระดับ resistance สำคัญอยู่ที่ $112,000 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดล่าสุด หากสามารถทะลุผ่านได้ เป้าหมายถัดไปอยู่ที่ $125,000-$130,000 ในระยะกลาง ด้านล่าง support แข็งแกร่งอยู่ที่ $105,000 และ $100,000 ซึ่งเป็นระดับจิตวิทยาสำคัญ
Ethereum (ETHUSD) แสดงสัญญาณการฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง ด้วยราคาปัจจุบันที่ $2,544 และการไหลเข้าของ ETH ETFs ที่ต่อเนื่อง 18 วัน เป้าหมายระยะสั้นอยู่ที่ $2,800-$2,900 หากโมเมนตัมเชิงบวกกลับมา ระยะกลางอาจมองถึง $3,000 ได้ Support สำคัญอยู่ที่ $2,400 และ $2,316-$2,402 ซึ่งเป็น zone ที่แข็งแกร่งที่สุด
XRP ยังคงอยู่ในช่วงรอการตัดสินคดี Ripple vs. SEC ด้วยราคาปัจจุบันที่ $2.15 การเคลื่อนไหวในระยะสั้นจะขึ้นอยู่กับข่าวกฎระเบียบ Resistance สำคัญอยู่ที่ $2.50 และ $2.73-$3.00 ส่วน support อยู่ที่ $2.00 และ $1.94
โอกาสการเทรดสำคัญในสัปดาห์นี้:
การประชุม Fed วันที่ 17-18 มิถุนายนเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ หาก dot plot แสดงการลดจำนวนครั้งในการลดดอกเบียน DXY อาจแข็งค่าชั่วคราว ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ Bitcoin ในระยะสั้น แต่หากมีสัญญาณ dovish มากกว่าคาด จะเป็นแรงหนุนให้ Bitcoin ทะลุ $112,000
การใช้ประโยชน์จากการแยกตัว ของ Bitcoin จากตลาดหุ้นเปิดโอกาสใหม่ เทรดเดอร์สามารถใช้ความสัมพันธ์กับทองคำมาช่วยในการวิเคราะห์ เมื่อทองคำแข็งค่าเนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์การเมือง Bitcoin มีแนวโน้มตามไปในทิศทางเดียวกัน
การบริหารความเสี่ยง:
Fear & Greed Index ที่ระดับ 69 (Greed) เตือนให้ระมัดระวัง แม้ยังไม่ถึงระดับ extreme greed แต่การลดลงของ Advanced Sentiment จาก 80% เป็น 46.1% บ่งชี้ว่านักเทรดเริ่มไม่แน่ใจ การตั้ง stop-loss ที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญมาก
สำหรับ Bitcoin ควรตั้ง stop-loss ที่ $103,000 สำหรับ long positions และ $107,000 สำหรับ short positions Ethereum ควรใช้ $2,400 เป็น stop-loss สำหรับ long positions
สำหรับผู้เริ่มต้น (Beginner):
เน้นการเรียนรู้มากกว่าการหากำไรในช่วงนี้ ใช้การประชุม Fed เป็นโอกาสสังเกตว่าตลาดคริปโตตอบสนองต่อข่าวสารมหเศรษฐกิจอย่างไร ลงทุนด้วยเงินที่สูญเสียได้และเน้น DCA (Dollar Cost Averaging) กับ Bitcoin และ Ethereum เป็นหลัก หลีกเลี่ยงการเทรดระหว่างการประชุมธนาคารกลางเนื่องจากความผันผวนสูง
สำหรับเทรดเดอร์ระดับกลาง (Intermediate):
ใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างตลาด พิจารณา pair trading ระหว่าง Bitcoin กับทองคำ หรือ Bitcoin กับ tech stocks เพื่อใช้ประโยชน์จากการแยกตัว ตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่ resistance levels และใช้ position sizing ที่เหมาะสม ไม่เกิน 2-3% ของพอร์ตต่อ trade
ติดตาม ETF flows เป็นประจำ การไหลเข้าของ Ethereum ETFs ที่ต่อเนื่องอาจเป็นสัญญาณของการหมุนเวียนเงินทุนจาก Bitcoin ไป Ethereum เตรียมพร้อมสำหรับ scenario นี้
สำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ (Advanced):
ใช้กลยุทธ์ multi-timeframe และ cross-asset correlation อย่างเต็มที่ พิจารณา volatility trading รอบการประชุม Fed โดยใช้ options หรือ volatility derivatives เน้นการวิเคราะห์ order book และ whale movements ผ่าน on-chain data
สร้างdynamic hedging strategy ที่ปรับเปลี่ยนตามความสัมพันธ์ระหว่างตลาด ใช้ correlation breakdown เป็นโอกาสในการ alpha generation พิจารณา arbitrage opportunities ระหว่าง spot และ futures markets รอบเวลาที่มีข่าวสำคัญ
Bottom Line Up Front: ตลาดคริปโตกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสำคัญ การแยกตัวของ Bitcoin จากตลาดหุ้นและการเข้าใกล้บทบาท “digital gold” เปิดโอกาสใหม่สำหรับนักลงทุนทุกระดับ การประชุมธนาคารกลางสัปดาห์นี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางระยะสั้น ขณะที่การไหลเข้าของ ETFs ที่ต่อเนื่องสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตระยะยาว
การเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ต่างๆ: หาก DXY อ่อนค่าต่อเนื่องหลังการประชุม Fed Bitcoin อาจทะลุ $112,000 และมุ่งหน้าสู่ $125,000 ในระยะกลาง แต่หากมีสัญญาณ hawkish เกินคาด การปรับตัวลงสู่ $100,000 ก็เป็นไปได้ การเตรียมแผนสำหรับทั้งสองสถานการณ์จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากความผันผวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทความนี้จัดทำโดยทีมวิเคราะห์ของ FXGT เพื่อให้ข้อมูลการศึกษาเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน ผู้อ่านควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน