หมายเหตุสำคัญ!
เราใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา
ด้วยการคลิกที่ ‘ตกลง’ คุณได้ยอมรับการใช้คุกกี้ของเราตามที่อธิบายไว้ใน นโยบายคุกกี้
หลายคนเชื่อว่าเทรดเดอร์เป็นอาชีพที่มีอุปสรรคค่อนข้างสูงในการเข้ามาทำอาชีพนี้ หลังจากที่ได้ใช้เวลากว่า 15 ปีในตลาดในการวิเคราะห์ ทำการเทรด และให้คำปรึกษาเทรดเดอร์ทุกระดับ เป็นที่ชัดเจนว่าหากใครสามารถสร้างสมดุลระหว่างความทะเยอทะยานและความอดทนได้ อุปสรรคนี้ก็จะถูกทลายลง แม้ว่าการรักษาสมดุลนี้เป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่มักถูกมองข้ามและถูกประเมินค่าต่ำเกินไปก็คือความสำคัญของการใช้แนวทางที่เป็นระบบ
ดังนั้นสำหรับการเทรดเพื่อใช้เป็นอาชีพหลัก พาร์ทไทม์ หรือเป็นเพียงช่องทางในการสร้างรายได้เสริม ระบบการเทรดที่แข็งแกร่งจึงเป็นสิ่งจำเป็น
ในบทความนี้ เราจะพูดถึงองค์ประกอบของระบบการเทรดที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นการวางรากฐานสำหรับทุกคนที่สนใจในการทำกำไรจากตลาดอย่างสม่ำเสมอ นี่ไม่ใช่แนวทางทางเทคนิคหรือเศรษฐกิจ แต่เป็นแนวทางในการไปสู่จุดต่าง ๆ ที่จำเป็นเพื่อให้มีความสมดุลและประสบความสำเร็จในฐานะผู้ที่สามารถทำกำไรได้ เพื่อมุ่งไปสู่การเป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” ด้านการเทรด
ระบบคือชุดของพารามิเตอร์ที่ใช้ในการเปลี่ยนอินพุตเป็นเอาต์พุต และข้อมูลเป็นการตัดสินใจ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นได้ผ่านการใช้ “ถ้า…” ,”แล้ว…” หากไม่มีแนวทางที่ชัดเจน กระบวนการที่ทำซ้ำได้ และการใช้ข้อความเหล่านี้ ผลลัพธ์ในการเทรดจะไม่สามารถถูกประเมินได้ หลังจากที่มีขนาดตัวอย่างจำนวนหนึ่ง มีการประเมิน และการปรับแต่งแล้วเท่านั้นจึงจะสามารถทำได้
ระบบการเทรดประกอบไปด้วย 3 ส่วน ได้แก่:
A) วิธีการ
B) การจัดการเงิน
C) จิตวิทยา
ระบบการเทรดที่แข็งแกร่งจำเป็นต้องมีทุกสิ่งตามที่กล่าวมาข้างต้นและมีความสอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความสม่ำเสมอ แต่ละสิ่งเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญและส่งผลต่อระบบ เราลองมาดูกันทีละอย่าง
บ่อยครั้งที่เทรดเดอร์สับสนระหว่างระบบกับวิธีการ วิธีการเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบและควรประกอบไปด้วยสิ่งต่อไปนี้:
1. การตั้งเงื่อนไข/ไอเดีย
2. สัญญาณเข้า
3. การตั้ง stop loss
4. กลยุทธ์การเข้าใหม่
5. พารามิเตอร์การออก
1) เงื่อนไขที่ตั้งประกอบไปด้วย การกรองและเกณฑ์การเปรียบเทียบระหว่างข้อมูลในอดีต (การวิเคราะห์ทางเทคนิค) และระหว่างตลาด (การวิเคราะห์ระหว่างตลาดและปัจจัยพื้นฐาน) มีตลาดมากมายให้เลือกทำการเทรด คุณควรเทรดที่ใด? การใช้เกณฑ์การกรองและการเปรียบเทียบที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเพื่อลดจำนวนให้เหลือน้อยลงจะช่วยให้สามารถรับรู้สภาวะตลาดหลายแห่งได้ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้สามารถดำเนินกลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสม
2) สัญญาณเข้าหรือทริกเกอร์ เป็นสัญญาณเฉพาะที่ใช้ในการกำหนดเวลาในการเปิดโพซิชั่น มีสัญญาณหลายประเภทที่สามารถนำมาใช้ได้ โดยทั่วไปแล้วสัญญาณเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนตัวในบางลักษณะตามการตั้งค่าในช่วงกระบวนการกรองตามที่อธิบายไว้ข้างต้น เทรดเดอร์มือใหม่มักใช้เวลาส่วนใหญ่ในการค้นหาสัญญาณเข้าที่สมบูรณ์แบบ “จอกศักดิ์สิทธิ์” แต่นี่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ความคิดที่ดี เนื่องจากมันเป็นเพียงหนึ่งในห้าองค์ประกอบของวิธีการ และวิธีการเป็นเพียงหนึ่งในสามองค์ประกอบของระบบการเทรด
3) การตั้งจุดตัดขาดทุนมีไว้เพื่อปกป้องเงินทุน เนื่องจากตลาดจะไม่เคลื่อนไหวไปทางใดทางหนึ่งตลอดไป มันเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดของการขาดทุนที่เทรดเดอร์ต้องการประสบ ยกตัวอย่างเช่น มันเป็นสัญญาณได้จากมูลค่าที่ลดลง (เช่น ราคาลดลง 10%) รูปแบบของราคาที่จะทำให้ปิดโพซิชั่นอย่างรวดเร็วหากตลาดพลิกกลับ หรือระดับทางเทคนิค
4)กลยุทธ์การกลับเข้าใหม่เป็นกลยุทธ์ที่ถูกใช้เมื่อโพซิชั่นถูก stop out แต่ยังมีโอกาสทำกำไร โดยแนวคิดหลักยังคงอยู่และยังคงมีผล
5) กลยุทธ์การออกเป็นหนึ่งในสองปัจจัยในการเทรดที่เราสามารถควบคุมได้ทั้งหมด (อีกปัจจัยหนึ่งคือการจัดการเงิน / ความเสี่ยง) นี่เป็นส่วนที่ยากที่สุดในการเทรด เทรดเดอร์ควรใช้เวลาและความคิดส่วนใหญ่ในการหากลยุทธ์การออก ด้วยเหตุผลที่ดีคือ เทรดเดอร์จะทำเงินได้เมื่อปิดโพซิชั่นไม่ใช่เมื่อเปิดโพซิชั่น กลยุทธ์การออกที่ดีอาจทำให้ผลการซื้อขายดีขึ้นทันที
การกำหนดขนาดโพซิชั่นเป็นส่วนหนึ่งของระบบที่ควบคุมจำนวนเงินที่คุณกำลังเสี่ยง มันจะกำหนดปริมาณการเทรดและเป็นผลลัพธ์ของขีดจำกัดต่อไปนี้:
• ความเสี่ยงต่อปี
• ความเสี่ยงต่อเดือน
• ความเสี่ยงต่อสัปดาห์
• ความเสี่ยงต่อการเทรด
เราสามารถไปถึงเป้าหมายได้ด้วยการกำหนดขนาดโพซิชั่น ตามที่ได้กล่าวไว้ นี่คือหนึ่งในสองปัจจัยของการเทรดที่เทรดเดอร์สามารถควบคุมได้ทั้งหมด
จิตวิทยาประกอบไปด้วยปัจจัยทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการปฏิบัติตามกฎ ไม่ใช่แค่กฎใด ๆ ก็ได้ แต่เป็นกฎที่คุณสร้างขึ้นเอง กระบวนการที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจทำการเทรดจะแตกต่างจากการใช้สมองกับการดำเนินงานในเรื่องวินัยและเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ความสงสัยและความลังเลที่เกิดจากความผันผวนของราคาทำให้เกิดความโลภและความกลัว อารมณ์ที่อาจเป็นอันตรายต่อผลลัพธ์ มีการสังเกตว่าวิธีการซื้อขายที่เชื่อถือได้ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่น่าหวังในขณะที่ซื้อขายบนกระดาษ (ซื้อขายผ่านบัญชีทดลอง) ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์เชิงลบเมื่อซื้อขายจากบุคคลเดียวกัน ภายใต้สภาวะตลาดจริง โดยมีเงินจริงตกอยู่ในความเสี่ยง ความคิดของเทรดเดอร์มีความรับผิดชอบ และวิธีเดียวที่จะเติมเต็มช่องว่างความเป็นจริงนี้คือการใช้วิธีทางจิตที่แตกต่างกัน การเข้าใจว่าการซื้อขายเป็นเกมตัวเลขและความน่าจะเป็น และในขณะที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงอะไรก็เกิดขึ้นได้ มีการสังเกตว่าวิธีการเทรดที่เชื่อถือได้ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีในขณะที่ทำการเทรดบนกระดาษ (เทรดผ่านบัญชีเดโม) ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์เชิงลบเมื่อมีการเทรดจากบุคคลเดียวกัน ภายใต้สภาวะตลาดจริง โดยที่เงินจริงตกอยู่ในความเสี่ยง ความคิดของเทรดเดอร์เป็นสาเหตุของเรื่องนี้ และวิธีเดียวที่จะเติมเต็มช่องว่างความเป็นจริงนี้คือการใช้วิธีทางจิตวิทยาที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจว่าการเทรดเป็นเกมตัวเลขและความน่าจะเป็น และในขณะกำลังเผชิญกับความเสี่ยง อะไรก็เกิดขึ้นได้
ระบบการเทรดควรสะท้อนถึงความเชื่อของคุณ (เช่น คุณเป็นใครในฐานะเทรดเดอร์ และในฐานะบุคคล) หลาย ๆ คนกำลังมองหา “ระบบอะไรก็ได้ที่ใช้งานได้” แต่ถ้าระบบการเทรดของคุณไม่ตรงกับความเชื่อของคุณเกี่ยวกับตลาด สมองของคุณก็จะหาวิธีทำลายมันในที่สุด ทำให้ความคิดที่ไร้เหตุผลครอบงำ
ไม่มีระบบใดที่เป็นเครื่องสร้างรายได้ที่สามารถพิมพ์เงินออกมาได้ตลอดไป คุณคือผู้ที่จะให้คุณค่ากับมันโดยมีวัตถุประสงค์ที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง และเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง