หมายเหตุสำคัญ!
เราใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา
ด้วยการคลิกที่ ‘ตกลง’ คุณได้ยอมรับการใช้คุกกี้ของเราตามที่อธิบายไว้ใน นโยบายคุกกี้
โดยทั่วไปเรียกว่าดัชนี ตัวบ่งชี้เหล่านี้ทำหน้าที่ตามชื่อของมัน โดยสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของตลาด ดัชนีหุ้นช่วยให้เราเข้าใจว่ากลุ่มของหุ้นต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในภาพรวม แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่บริษัทเดียว ดัชนีจะให้มุมมองที่กว้างยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสถานะโดยรวมของตลาด และคุณอาจเคยได้เห็นดัชนีเหล่านี้ในการรายงานข่าว
คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับ Dow Jones อันโด่งดัง ในโลกของดัชนีทางการเงินที่ซับซ้อน Dow Jones Industrial Average หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า Dow ถือว่าอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญ มันไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขที่ผันผวนอยู่บนหน้าจอเท่านั้น แต่มันยังทำหน้าที่เป็นบารอมิเตอร์ของเศรษฐกิจอเมริกัน Dow Jones ประกอบไปด้วยบริษัทจดทะเบียนที่ใหญ่ที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุด 30 แห่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่ผู้บุกเบิกทางด้านเทคโนโลยีไปจนถึงผู้นำด้านการผลิตและยักษ์ใหญ่ทางการเงิน
ดัชนีหุ้นจะครอบคลุมเซ็กเตอร์ต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยี การดูแลสุขภาพ การเงิน หรือเซ็กเตอร์ที่ผสมผสานกัน ซึ่งสะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทใหญ่ ๆ ภายในโดเมนเหล่านั้น
1. ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) และ NASDAQ: ตลาดหลักทรัพย์ที่สำคัญสองแห่งในสหรัฐอเมริกาเป็นแหล่งที่มาของดัชนีที่มีอิทธิพลมากที่สุด ซึ่งรวมถึง Dow Jones Industrial Average (Dow Jones) และ NASDAQ Composite
2. วอลล์สตรีท – Dow Jone: Dow Jones Industrial Average ถูกมองในแบบเดียวกันกับวอลล์สตรีท และเป็นรากฐานสำคัญของการเงินอเมริกัน ด้วยการติดตามบริษัทยักษ์ใหญ่ 30 แห่ง เช่น Apple, Intel, Exxon Mobil และ Goldman Sachs ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก โดยดัชนี Dow Jones ทำหน้าที่เป็นมาตรวัดที่สำคัญของความมีชีวิตชีวาทางเศรษฐกิจของประเทศ
3. S&P 500: S&P 500 ถือเป็นตัวบ่งชี้สำคัญของตลาดหุ้นสหรัฐ โดยติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทขนาดใหญ่ 500 แห่งที่จดทะเบียนใน NYSE และ NASDAQ โดยให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับสุขภาพโดยรวมของเศรษฐกิจสหรัฐ
4. FTSE 100 (UK100):ในสหราชอาณาจักร FTSE 100 สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน โดยมุ่งเน้นไปที่เซ็กเตอร์ต่าง ๆ เช่น เหมืองแร่ พลังงาน และการเงิน โดยนำเสนอภาพรวมของมุมมองทางการเงินของสหราชอาณาจักร
5. GER40 (DAX): ภาวะเศรษฐกิจของเยอรมนีได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิดผ่าน DAX ซึ่งติดตามบริษัทชั้นนำ 40 แห่งที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ต ดัชนีตัวนี้ครอบคลุมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การเงิน ยานยนต์ การดูแลสุขภาพ และเคมีภัณฑ์ โดยมีผู้เล่นหลักเช่น Allianz, BMW, Bayer และ Siemens เป็นผู้นำของดัชนี
6. Nikkei 225(JP225): ดัชนี Nikkei 225 ทำหน้าที่ติดตามเศรษฐกิจของญี่ปุ่น โดยจะติดตามบริษัท 225 แห่งที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว โดยทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้สำคัญถึงสุขภาพทางการเงินของญี่ปุ่น
7. AUD200: ในออสเตรเลีย ดัชนี AUD200 สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทชั้นนำ 200 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย (ASX) ดัชนีตัวนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศในเซ็กเตอร์ต่าง ๆ
ดัชนีถูกคำนวณในหลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับประเภทของดัชนีและเป้าหมายของผู้ให้บริการดัชนี
ดัชนีถูกสร้างขึ้นมาอย่างไร?
ดัชนีถูกสร้างขึ้นโดยคณะกรรมการที่มีการกำหนดกฎเกณฑ์ว่าบริษัทใดสามารถอยู่ในดัชนีได้ คณะกรรมการเหล่านี้จะประชุมกันอยู่เป็นประจำเพื่อตรวจสอบกฎเกณฑ์และตัดสินใจว่าควรเพิ่มหรือนำบริษัทออกจากดัชนี
ดัชนีระดับโลก: ดัชนีเหล่านี้จะติดตามการเปลี่ยนแปลงของหุ้นจากทั่วทุกมุมโลก ดัชนี MSCI World Index เป็นตัวอย่างหนึ่งของดัชนีระดับโลก
ดัชนีระดับภูมิภาค: ดัชนีเหล่านี้จะติดตามการเปลี่ยนแปลงของหุ้นจากภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง ดัชนี S&P Europe 350 เป็นดัชนีระดับภูมิภาค
ดัชนีระดับประเทศ: ดัชนีเหล่านี้จะติดตามการเปลี่ยนแปลงของหุ้นจากประเทศใดประเทศหนึ่ง FTSE 100 เป็นตัวอย่างของดัชนีระดับประเทศ
ดัชนีของตลาด: ดัชนีเหล่านี้จะติดตามการเปลี่ยนแปลงของหุ้นที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์หนึ่ง ๆ NASDAQ 100 ถือเป็นดัชนีของตลาด
ดัชนีอุตสาหกรรม: ดัชนีเหล่านี้จะติดตามการเปลี่ยนแปลงของหุ้นจากอุตสาหกรรมหนึ่ง ๆ ตัวอย่างเช่น ดัชนี S&P 500 Information Technology Index เป็นดัชนีอุตสาหกรรม
ดัชนีสกุลเงิน: ดัชนีเหล่านี้จะติดตามการเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินหนึ่ง ๆ เทียบกับตะกร้าสกุลเงินอื่น US Dollar Index เป็นดัชนีสกุลเงิน
ดัชนีความเชื่อมั่น: ดัชนีเหล่านี้จะวัดระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อตลาดหรือประเภทสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง VIX เป็นตัวอย่างของดัชนีความเชื่อมั่น
ข่าวเศรษฐกิจ: ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ เช่น การเติบโตของ GDP และอัตราดอกเบี้ยสามารถส่งผลกระทบต่อดัชนีหุ้นได้
ผลประกอบการของบริษัท: การเปิดเผยรายงานผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ อาจส่งผลต่อดัชนีหุ้นได้เช่นกัน
เหตุการณ์ทางการเมือง: เหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น การเลือกตั้งและความขัดแย้งสามารถมีอิทธิพลต่อดัชนีหุ้นได้
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์: การเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะบริษัทที่เชื่อมโยงกับสินค้าโภคภัณฑ์ สามารถส่งผลกระทบต่อดัชนีหุ้นได้
ความเชื่อมั่นของนักลงทุน: อารมณ์และความมั่นใจโดยรวมของนักลงทุนยังสามารถส่งผลต่อราคาดัชนีหุ้นได้อีกด้วย
การลงทุนในดัชนีหุ้นผ่านสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดโลกได้อย่างสะดวกสบายโดยใช้เงินทุนเพียงเล็กน้อย FXGT.com มีดัชนีระดับโลกยอดนิยมจำนวนมากที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสในภูมิภาคและเซ็กเตอร์ต่าง ๆ ได้ ด้วยแพลตฟอร์มของ FXGT.com นักลงทุนจะสามารถกระจายพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถบรรลุเป้าหมายในการลงทุนผ่านการซื้อขายดัชนีหุ้น